วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บทที่2 พหุนาม

บทที่2 พหุนาม
ในบางครั้งตัวอักษรที่ใช้แทนตัวเลขเราเรียกว่า ตัวแปร เช่น X Y Z A H I
ตัวเลขที่ใช้แสดงจำนวนเรียกว่า ค่าคงที่ ค่าคงตัว หรือ ตัวคงที่
ตอนที่ 2.1 เอกนาม
เอกนามคือจำนวนที่เขียนในรูปการคูณของค่าคงที่กับตัวแปรตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป โดยที่เลขชี้กำลังของตัวแปรแต่ละตัวเป็นศูนย์หรือจำนวนเต็มบวก
จำนวนที่เป็นเอกนาม เช่น 5X3Y , 3-2AB , ab2c3 , 7
จำนวนที่ไม่ใช่เอกนาม เช่น 4X-3Y , n + 6 , 2a/3b
ดังนั้น เอกนามมี 2 ส่วน มี 1.ค่าคงที่ เรียกว่า สัมประสิทธิ์ของเอกนาม 2.ส่วนที่อยู่ในรูปการคูณของตัวแปร โดยเลขชี้กำลังของตัวแปร แต่ละตัวเป็นศูนย์ หรือจำนวนเต็มบวกเรียกผลบวกของเลขชี้กำลัง ของตัวแปรทั้งหมดในเอกนามว่า ดีกรีของเอกนาม เช่น 78X2Y3Z ดีกรี คือ 6 ( เลขชี้กำลังของ X คือ 2 , Y คือ 3 , Z คือ 1 ) และสัมประสิทธิ์คือ 78
แต่เอกนาม 0 จะบอกได้ไม่แน่นอน เนื่องจาก 0 = 0Xn โดยที่ X ไม่เท่ากับศูนย์ และ n เป็นจำนวนเต็มบวกหรือศูนย์ ดังนั้น ไม่กล่าวถึงดีกรีของ 0
ตอนที่ 2.2 การบวก-ลบ เอกนาม
เอกนามที่คล้ายกันสามารถนำมาบวกลบกันได้โดยสมบัติแจกแจง ดังนี้
3XY4 + 7XY4 = (3+7)XY4 ผลบวกของเอกนามคล้ายเท่ากับ (ผลบวกของสัมประสิทธิ์)ตัวแปรชุดเดิม
3XY4 - 7XY4 = (3-7)XY4 ผลลบของเอกนามคล้ายเท่ากับ (ผลลบของสัมประสิทธิ์)ตัวแปรชุดเดิม
กรณีที่เอกนามไม่คล้ายกันให้เขียนผลบวกในรูปเดิม เช่น 7X4Y + 7XY4 ผลลัพธ์คือ 7X4Y + 7XY4
ตอนที่ 2.3 การคูณ-หาร เอกนาม
การคูณให้นำสัมประสิทธิ์มาคูรกันและนำตัวแปรมาคูณกัน (จำตรงนี้ให้ดีครับจะใช้ต่อไปในเทอมหลังๆด้วย)
การหารให้นำมาหารกันเลยโดยสัมประสิทธิ์อยู่ฝ่ายสัมประสิทธิ์ ตัวแปรอยู่ฝ่ายตัวแปร แล้วก็หารแบบบทแรกๆและปีแรกๆ หากผลหารไม่ใช่เอกนามให้ตอบว่า หารไม่ลงตัว (เช่น เหลือส่วนมากกว่า 1) หากเป็นเอกนามให้ตอบว่าลงตัว
ตอนที่ 2.4 พหุนาม
กล้วยนั้หากมีชิ้นเดียวเราเรียกว่าผล หากมีหลายผลก็เรียกว่าหวี เช่นเดียวกับ เอกนามด้วย 1 เอกนาม(ต่อไปนี้ของเรียกว่าพจน์) เรียกว่าเอกนาม หากหลายเอกนาม(พจน์)ก็เรียกว่าพหุนามนั่นเอง เช่น
2m3 + 3n , XY2 + YR7 , 4q3 - 5y2 + 7r3
จะเห็นไดว่าพหุนามเกิดจากผลบวกหรือลบของเอกนามไม่คล้า(หากคล้ายจะเป็นเอกนามชัวร์ๆ)
ดังนั้น เอกนามก็คือพหุนาม
ใน 1 พหุนามจะมีพจน์คล้ายๆ กัน เรียกว่าพจน์คล้านโดยนับที่จำนวนพจน์ หากเป็นวงเล็บก็นับเป็น 1 พจน์ โดยต้องอยู่ในรูปบวกและลบกันเท่านั้น เราเรียกพหุนามที่ไมีมีพจน์คล้ายว่า พหุนามในรูปผลสำเร็จ และถือว่าดีกรีสูงสุดของพจน์ในพหุนามถือว่าเป็น ดีกรีของพหุนาม ส่วนมากแล้วนิยมเรียงดีกรีจากมากไปหาน้อยและไม่นิยมให้ติดลบ
ตอนที่ 2.5 การบวก-ลบ พหุนาม
ทำได้โดยการนำพจน์คล้ายมารวมกันเท่านั้น (หากไม่เข้าในของให้ไปดูเอกนาม) ส่วนการบวกในแนวตั้งให้เอาพจน์คล้ายให้ตรงกัน ในการลบให้เปลี่ยนลบเป็นบวกแล้วเปลี่ยน พหุนามที่ต่อจากเครื่องหมายลบให้เป็นตรงกันข้าม ซึ่งอธิบายได้ว่าในหลักคณิตศาสตร์ไม่มีการลบจะมีแต่การบวกจำนวนบวก และบวกจำนวนลบ
ตอนที่ 2.6 การคูณ-หาร พหุนาม
การคูณเอกนามกับพหุนามนั้นให้คูณแต่ละพจน์ของพหุนามด้วยเอกนาม ส่วนการคูณพหุนามกับพหุนาม (จะใช้เรียนต่อในเทอม2) ให้คูณทุกๆพจน์ของพหุนามหนึ่งด้วยแต่ละพจน์ของพหุนามแล้วนำผลมารวมกัน
2a(a+b+c) = 2axa + 2axb + 2axc = 2a2+2ab+2ac
(a+b)(a+b) = (axa) + (axb) + (bxa) + (bxb) = a2+2ab+b2
ส่วนการหารพหุนามด้วยเอกนามนั้น ให้นำเอกนามทุกพจน์ของพหุนามตัวตั้งแล้วนำผลลัพธ์ที่ได้มาบวกกัน
จะเห็นได้ว่าหากพจน์ใดพจน์หนึ่งไม่ใช่เอกนามจะถือว่าผลหารนั้นไม่ลงตัว
ส่วนเศษคือตัวที่ไม่ใช่เอกนาม ส่วนการหารพหุนามด้วยพหุนามนั้น
ให้หารยาวและหารแบบปกติอาจจะยากไปหน่อย และต้องเรียงพจน์ดวย
เอาเป็นว่า ม.3 เมื่อไหร่ค่อยรู้แล้วกัน เชิญไปบทต่อไปและต้องใช้ตลอด
กับ ปิทาโกรัส
แหล่งอ้างอิง http://www.bs.ac.th/studentweb/math/multinoun.html

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เครื่องอ่านบัตร

เครื่องอ่านบัตร(card reader)

เครื่องอ่านบัตรจะทำหน้าที่อ่านข้อมูลบนบัตร แล้วเปลี่ยนให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยอ่านเป็นเลขฐานสองที่มี 12 บิต (จาก 12 แถวบนบัตร) แล้วเปลี่ยนให้เป็นเลขฐานสองที่มี 6 หรือ 8 บิต (ตามแบบของคอมพิวเตอร์ที่ใช้) เครื่องอ่านบัตรมีสองแบบ คือ แบบใช้แปรงโลหะ และ แบบใช้หลอดโฟโตอิเล็กทริก (photoelectric)
บัตรคอมพิวเตอร์สีข้อความ
ในเครื่องอ่านบัตรแบบใช้แปรง บัตรจะเคลื่อนออกจากที่เก็บโดยวิธีทางกล ผ่านเข้าไปใต้แปรงโลหะที่ทำหน้าที่เหมือนสะพานไฟฟ้า เมื่อมีรูบนบัตรเคลื่อนมาถึงแปรง แปรงก็จะสามารถลอดผ่านไปแตะกับลูกกลิ้งโลหะข้างล่างทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านและเกิดเป็นสัญญาณไฟฟ้าขึ้น การอ่านจะกระทำสองครั้งเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง แล้วบัตรจะเคลื่อนผ่านไปยังที่เก็บ หากผลการอ่านสองครั้งไม่ตรงกัน เครื่องอ่านบัตรจะรายงานความผิดพลาด
แผนภาพแสดงการทำงานของเครื่องอ่านบัตร
ในทำนองเดียวกันเครื่องอ่านบัตรที่ใช้โฟโตอิเล็กทริกเซลล์ ซึ่งทำงานโดยให้บัตรเคลื่อนผ่านแสงไฟ ถ้าที่ใดมีรูเจาะไว้ก็จะมีแสงลอดมาถูกโฟโตอิเล็กทริกเซลล์ เซลล์หนึ่งสำหรับแถวดิ่งหนึ่งแถว ครั้นแล้วจะมีสัญญาณไฟฟ้าเกิดขึ้นแต่สามารถทำงานได้รวดเร็วกว่าแบบแรก เครื่องอ่านบัตรโดยทั่ว ๆ ไปจะมีความเร็วตั้งแต่ 200-1,200 บัตรต่อนาที
บัตรคอมพิวเตอร์มีหลายชนิด ชนิดที่รู้จักกันมากคือ บัตรฮอลเอลริท เป็นบัตรที่ ดร.เฮอร์แมน ฮอลเลอริท ประดิษฐ์ขึ้นใน พ.ศ.2432 และได้นำออกใช้เป็นครั้งแรกในการทำสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาใน พ.ศ.2433 บัตรนี้ทำด้วยกระดาษพิเศษเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีขนาดกว้าง 3 นิ้ว ยาว 7 นิ้ว และหนา 0.007 นิ้ว มีมุมบนถูกตัดทิ้งเฉียง ที่มุมใดมุมหนึ่งบนบัตรมีตำแหน่งเตรียมไว้ให้เจาะรู โดยมีแถวในแนวดิ่ง 80 แถว และแถวในแนวนอน 12 แถว จากแถวบนตามแนวนอนลงมาแถวล่างเรียงตามลำดับเรียกแถว 12 แถว 11 และแถว 0-9
ข้อมูลที่บันทึกไว้บนบัตรจะเจาะรูเป็นรหัสเพื่อแทนข้อมูล 3 แบบ คือ ตัวเลขฐานสิบ (0-9) ตัวอักษร (A-Z) และเครื่องหมายต่าง ๆ (เช่น &, ), (, -, +, ?,…….) เช่น ถ้าเราต้องการบันทึกอักษร M เราก็ใช้เครื่องเจาะหนึ่งรูที่แถว 11 และอีกหนึ่งรูที่แถว 4 ในแนวดิ่งเดียวกัน
ข้อดีของบัตรคอมพิวเตอร์คือ เป็นการง่ายในการเตรียมและเก็บ แต่มีข้อเสียคือ เปลืองที่เก็บ เมื่อถูกความชื้นบัตรจะพอง และเมื่อเจาะข้อมูลลงในบัตรแล้วไม่สามารถเจาะข้อมูลใหม่ลงในที่เดิมได้ จึงไม่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

ความรู้และทริปต่างๆ ของคอมพิวเตอร์

ความรู้และทริปต่างๆ ของคอมพิวเตอร์

1. แปลงระบบ FAT32 ให้เป็น NTFS ไปที่ start >run พิมพ์ Convert X: /FS:NTFS X คือ ไดร์ฟที่จะเปลี่ยน ระหว่าง ไดร์ฟ: กับ / ต้องมีเว้นวรรค แล้วกด ok แล้วจะมีการยืนยันกด yes ไปเรื่อยๆแล้วกด enter เพื่อ restart แล้วก็รอจะเข้า windows ใหม่ ก็เรียบร้อย 2.วิธี backup registry start>program>accessories>system tool เลือก backup จะปรากฏหน้าต่าง backup or restore คลิกที่ลิงค์ advance mode คลิกแถบ backup แล้วคลิกเลือกส่วน System State ดูด้านล่างตรง backup media or file name กำหนดว่าจะ backup ที่ไหน คลิก start backup แระ start backup จนเสร็จ 3.วิธี restore registry start>program>accessories>system tool เลือก backup จาปรากฏหน้าต่าง backup or restore คลิกที่ลิงค์ advance mode คลิกแถบ restore and manage media คลิกเลือก system state ที่ backup ไว้ คลิก start restore 4.หยุดการ auto run ของแผ่น cd ก่อนใส่แผ่น shift ค้างแล้วใส่แผ่น cd 5.ลบโปรแกรมที ่มาพร้อมกับ win xp ออก โปรแกรมที่มากับ winxp จะไม่มีใน add remove ไปที่ start >setting>control panal>folder option เลือกแถบ view เลือก show hidden files.... เพื่อให้ windows โชว์ไฟล์ทั้งหมด แล้วไปที่ start>run พิมพ์ inf หาไฟล์ sysoc.inf แล้วดับเบิ้ลคลิก จะเปิดมาใน notepad มองหาโปรแกรมที่จะลบ แล้วลบคำว่า hide ออกแล้ว save แล้วไปที่ add remove แล้วลบโปรแกรมที่จะเอาออก 6.วิธีลบ Shared Documents ออกจาก My Computer บางท่านคงไม่เคยใช้ประโยชน์จากโฟลเดอร์นี้เลย ครั้งอยากลบก็ลบเหมือนโฟลเดอร์ทั่วๆไปไม่ได้ รกตาเป็นบ้า ดังนั้นเรามาดูวิธีลบมันออกไปกันดีกว่า ก่อนอื่นให้ไปที่ Start>Run แล้วพิมพ์ regedit จากนั้นให้เลือกที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\ Software\ Microsoft\ Windows\Curr entVersion\Explorer \MyComputer\ NameSpace\ DelegateFolders จากนั้นให้มองหาคีย์ {59031a47-3f72- 44a7-89c5- 5595fe6b30ee} ลบคีย์ที่ว่านี้ออกไปซะ Restart เครื่องใหม่ซะ Shared Documents ก็จะหายไปจาก My Computer 7. เมื่อ keyboard เสีย เราสามารถใช้โปรแกรมที่มากับ winxp มาแก้ขัดก่อนได้ คือ on-screen keyboard ไปที่ start>run พิมพ์ OSK 8. เข้า winXp ไม่ต้องรอนาน โดยปกติเมื่อเปิดเครื่องเข้า winxp นานประมาณ 30 วินาทีอาจไม่ทันใจพวกเรานัก ไปที่ start>run พิม cmd มันจะขึ้นมาเป็น Dos พร้อม พิมพ์ bootcfg/timeout 5 แล้วกด enter แล้วลองเข้า winxp ใหม่ 9. โปรแกรม ค้าง ระหว่างการใช้งาน กด alt+ctrl+delete จะปรากฏหน้าต่าง window task manager เลือก application ดูว่าโปรแกรมไหนที่ not responting ก็ไปที่โปรแกรม แล้วกด end task 10.การทำให้ Notepad ไม่มี Scrollbar บางคนอาจจะงง จะทำให้มันไม่มีไปทำไม คำตอบคือ บางครั้งเวลาเปิดอ่านข้อความในโน๊ตแพด บางทีมันจะยาวไปทางขวามากๆ ทำให้เวลาอ่านต้องเลื่อนตามไป อ่านลำบากดีแท้ อันนี้ก็เป็นวิธีทำให้อ่านง่ายขึ้นอีกนิด วิธีก็ เข้าไปที่โปรแกรม NotePad แล้วไปที่ เมนู Format > Word Wrap เท่านี้มันก็จะเรียงให้ใหม่ 11. หลายครั้งที่เปิดหน้าต่าง IE ขึ้นมา มันจะใหญ่ๆเล็กๆ ไม่เท่ากันใช่มั้ย ต้องานั่งกดให้มันเต็มจอทุกครั้งดูแล้วน่ารำคาญ เรามีวิธีแก้ง่ายๆให้คุณ 1. เข้าที่ Starts > Program > Internet Explorer คลิกขวาเลือก Properties 2. ที่หน้าต่าง Internet Explorer Properties ช่อง Run: คลิกเลือกให้อยู่ที่ Maximized แล้วคลิก OK 12. ติดจรวจในการเล่น internet ใน winxp การใช้ internet บางครั้งเร็ว บางครั้ง ขึ้นอยู่กับส่วนปะกอบหลายอย่าง วิธีนี้ก็ทำให้ internet เร็วขึ้นที่ถูกและเร็ว ^o^ ไปที่ start > run พิมพ์ gpedit.msc กด ok จะแสดงหน้าต่าง Group Policy ที่ computer config.. เลือก Administrative Templates หัวข้อ network เลือกที่ QoS Packet Scheduler มองหน้าต่างขวามือ ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwith จะปรากฏหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwith Propoties เลือกแถบ setting คลิกเลือกที่ช่อง Enable ในกรอบ Bandwith limit(%) ปรับเป็น 0 แล้วกด ok 13.เวลาเราใช้คำสั่ง Search (Start>Search) หาไฟล์ต่างๆในเครื่อง มันจะมีหมาน้อย ออกมาพูดแนะนำต่างๆใช่มะ หากเราเหม็นขี้หน้ามัน เราสามารถไล่มันไปได้ วิธีก็ดังนี้เลย ไปที่ Start>Search จากนั้นดูด้านล่าง จะเห็น Change preferances คลิกเข้าไปโลด คลิก Without an animeted screen character เท่านี้เจ้าหมาน้อย ก็จะเดินจากเราไปแบบงอนๆ14.เร่งความเร็ว start menu ให้เร็วทันใจ ไปที่ start >run พิมพ์ regedit เลือก HKEY_CURRENT_ USER\Control Panal\Desktop ดูกรอบขวามือ ดับเบิ้ลคลิก MenuShowDelay ปรากฏ edit string ในกรอบ value data ให้ใส่ไป 0 ไปเลย ถ้าอยากให้เร็วสุดๆ ^^ 15.error report ความผิดพลาดในการใช้ windows xp หรือโปรแกรมอื่นๆ เวลามันผิดพลาดจะปรากฏหน้าต่าง error report เพื่อแจ้งไปให้ไมโครซอฟได้รู้ แต่ถ้าจาปิดหน้าต่างนี้ ก็ คลิกขวา my com > propoties เลือก advance คลิกปุ่ม error reporting คลิกเม้าที่หน้า disable error reporting กด ok 16.System Restore จะช่วยให้สามารถเรียกระบบ window ที่สมบูรณ์กลับคืนมาเมื่อ windows มีปันหา แต่ปันหาว่า มันกินพื้นที่ไปประมาณ 15% ของ HDD ถ้าเรามีเนื้อที่ม่ายพอ ก้อปิดการทำงานส่วนนี้ไปเลย คลิกขวา my com >propoties เลือกแถบ system restore เอาเครื่องหมายถูกหน้า turn off system restore ออก กด ok 17. ปรับขนาดของถังขยะ recycle bin เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน คลิกขวา recycle bin ไป propoties ปรับที่ตรง % จากเดิมมันจะเป็น 20% ก็ปรับเป็น 4 %ของ HDD จะก็สามารถเพิ่มพื้นที่ของ HDD ได้อีก 16% เลย ^o^ 18. ปรับแต่งโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำให้เร็วขึ้น ให้กดปุ่ม clrt + alt + delete ปรากฏกรอบ windows task manager เลือกแถบ processes เลือกโปรแกรมที่จะปรับแต่ง คือคลิกขวาที่โปรแกรม แล้วไปที่ set priority normal เป็นการทำงานปกติ ก้อปรับเป็น high ถ้าโปรแกรมเร็วเกินไปก้อไปที่ low เมื่อปรับแต่งเสร็จจะแจ้งเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงค่า ให้คลิก ok 19. มีบางคนใช้คอมฯ อยู่ดีๆแล้วรีสตาร์ทอัตโนมัติ สาเหตุก็เกิดจากโปรแกรมได้กำหนดค่าไว้ให้มีการรีสตาร ์ทระบบอัตโนมัติเมื่อพบว่าระบบมีปัญหา วิธีแก้คือ คลิกขวา my com > propoties ที่กรอบ system propoties เลือกแถบ advance คลิกที่ setting จากกรอบ startup and recovery ที่กรอบ system failure ให้ติ๊กถูกที่ automatically restart ออก แล้วกด ok เพื่อยืนยัน หรือ นอนยัน 555 20. วิธีประหยัดไฟ คอมพิวเตอร์ start > turn off computer > turn off 21. ใครแอบดูเราตอนเล่นเนต์ อาจจะมีเซียนมือโปรเข้ามาขโมยข้อมูลเราก็ได้ เราสามารถใช้ win xp ตรวจดูได้ ไปที่ start > run พิมพ์ nestat 20 แล้วกด ok ปรากฏหน้าต่างขึ้นมาดูว่ามี ip อันไหนแปลกปลอมเข้ามาบ้าง โดยโปรแกรมจะตรวจทุกๆ 20 วินาที 22.ดู ip เครื่องยังไง ไปที่ start >run พิมพ์ cmd แล้ว ok แล้วพิมพ์ ipconfig แล้วกด enter ดูตรง ip address 23.อาการเม้าส์เจ๊ง ถ้าไม่มีเวลาไปซื้อ ก็ต้องใช้ คีย์บอร์ด แทนไปก่อน ทำได้ดังนี้ ไปที่ start >setting>control panal ดับเบิ้ลคลิกที่ accessibility options เลือกแถบ mouse คลิกเครื่องหมายถูกหน้า use mouse keys คลิกปุ่ม settings ในกรอบ keyboard shortcut คลิกเม้าส์ที่ช่องของ use shortcut เพื่อกำหนดดารใช้งานของ keyboard คลิกปุ่ม ok ต่อไปก้อใช้ keyboard แทนเม้าส์ได้ชั่วคราว โดยที่ปุ่ม 1,2,3,4,6,7, 8,9 ใช้ควบคุมทิศทาง และ 5แทนการคลิกเม้าส์ 24.เวลาเอาโปรแกรมขึ้นมาหน้าจอเดสทอป จะเห็นลูกศร ซึ่งท่านรำคาญมาก เอาลูกศรออกจากช๊อตคัดของโปรแกรมได้ดังนี้ ไปที่ start >run พิมพ์ regedit เลือก HKEY_CLASSES_ ROOT\Inkfile แล้วดูข้างขวา จะมี IsShortcut แล้วคลิกขวา delete ไปเลย กด yes แล้วปิดหน้าต่าง regedit ไปเลย จะเห็นว่าลูกศรหายไปแล้ว ^^ 25.เวลาจะเข้ าเวปที่ลงท้ายด้วย .. com เช่น siamsport เราไม่ต้องเสียเวลานั่งพิมพ์ www.siamsport. com ในช่องแอดเดรส แต่ให้เราพิมพ์แค่ siamsport แล้วกด Ctrl+Enter เท่านี้ก็พอ มันก็จะเป็น http://www.siamspor t.com โดยอัตโนมัติ26. ลบโปรแกรมให้หมดจด การ uninstall หรือ add/remove ก็ใช่ว่าจะลบไปจากเครื่องได้หมด เพราะมันจะยังอยู่ใน registry ของเครื่อง ไปที่ start >run พิมพ์ regedit เลือกที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\ SOFTWARE\ Microsoft\ Windows\CurrentV ersion\Uninstall ลบโปรแกรมที่ ลบออก 27. การปิดเซอร์วิสสำหรับผู้ใช้คนเดียว จะช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานให้กับร ะบบ และสำหรับผู้ที่ใช้คอมที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับ เครือข่ายต่างๆเช่นระบบ แลน ผู้ใช้ตามบ้าน สามารถปิดเซอร์วิสจำนวนมากที่เกี่ยวกับเครือข่าย ซึ่งไม่มีการใช้งาน ดังนี้ alerter , clipbook , computer browser , fast user switching ฯลฯ โดยไปที่ start >setting>control panel > administrative tools >service โปรแกรม service จาปรากฏขึ้น ในกรอบด้านขวา จะเห็นรายการเซอร์วิสต่างๆ สามารถปิดเซอร์วิสต่างๆเพื่อเพิ่มความเร็วกับระบบ ด้วยการ ดับเบิ้ลคลิกบนเซอร์วิส ในไดอะล๊อกบอกซ์ propoties ที่ปรากฏขึ้น หัวข้อ startup type ให้กำหนดเป็น disbled แล้วคลิก ok 28.shutdown ของ winxp ใครก็รู้ว่ามันนานมาก ทิปนี้จาสามารถปิดเครื่องจากธรรมดา 50 วินาที จะเหลือเพียง 20-25 วินาที โดยไปที่ start >run พิมพ์ regedit HKEY_CURRENT_ USER\control panel\desktop ในกรอบด้านขวา HungAppTimeout ว่ามีค่าเท่ากับ 5000 ตามค่า default ให้เปลี่ยนเป็น 2000 จากนั้นดูที่ WaitToKillAppTimeou t จะเห็นค่า default เท่ากับ 20000 ให้ดับเบิ้ลคลิก แล้วแก้เป็น 4000 จากนั้นไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\ System\CurrentCo ntrolSet\ Control ที่ด้านขวา แก้ไขค่า WaitToKillServiceTi meout จาก 20000 ให้เท่ากับ 4000 ปิดโปรแกรม แล้วลองปิดเครื่อง............ . ............ ........ ....... 29. เพิ่มประสิทธิภาพโดยการปรับแต่งหน่วยความจำ ใน windows ทุกๆ ver. เมื่อหน่วยความจำของระบบไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่นในกรณีที่ท่านเปิดโปรแกรมเป็นจำนวนมาก windows จะนำข้อมูลบางส่วนเก็บไว้ใน HDD โดยอัตโนมัติ เป็นการใช้ HDD เป็นเหมือนหน่วยความจำเสมือน เราก็รู้ดีว่า แรมนั้นเร็วกว่า HDD ดังนั้น ถ้าท่านมีหน่วยความจำติดตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก <มากกว่า 256> ท่านสามารถเพิ่มประสิทธิการทำงานของระบบด้วยการปิดกา รย้ายข้อมูลไปยัง HDD ของ windows โดยการ ไปที่ regedit เหมือน rep บนๆนั้นละ HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrol\Control\ Session Manager\Memory Management ด้านขวาดับเบิ้ลคลิก DisablePagingExcuti ve ให้แก้ค่า value data จาก 0 ให้เห็น 1 แล้วคลิก ok แก้เสร็จ แล้ว restart 30.เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการยกเลิกการเก็บ DLL ของ win XP ในการทำงานของ windows และโปรแกรมต่างๆ ระบบจะมีการโหลดไฟล์จำนวนมากหนึ่งกลุ่มที่ถูกใช้งานอ ยู่เสมอ และเป็นองค์ประกอบสำคัญ คือไฟล์ DLL จำนวนมาก เมื่อ DLL บางส่วนไม่มีการใช้งานอีกต่อไป เช่น เมื่อท่านปิดโปรแกรม แต่ winXP จะยังคงเก็บไฟล์เหล่านี้เอาไปไว้ในแคชเผื่อจะมีการใช ้อีก ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานอย่างรวดเร็ว แต่การเก็บไฟล์เหล่านี้เอาไว้ จะเป็นการสิ้นเปลืองหน่วยความจำโดยไม่จำเป็น ไปที่ regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SOFTWARE\ Microsoft\ Windows\CurrentV ersion\Explorer เอาแถบน้ำเงินวางใน Explorer จากนั้นเลือกคำสั่ง edit>new>key ให้ท่านตั้งชื่อเป็น AlwaysUnloadDLL จากนั้นในกรอบด้านขวา ดับเบิ้ลคลิก default แล้วปรับ value data เป็น 1 31. ใน winxp มันจะมีคล้าย winzip จะเป็นตัว Built-in Zip โปรแกรมนี้ใช้งานง่ายและสะดวก แต่มันจะมีข้อจำกัดและลูกเล่นน้อยกว่าพวก WinZip winrar ที่โปรแกรมพวกนี้ถูกสร้างมาเพื่อนบีบคลาย zip โดยเฉพาะ เราสามารถยกเลิกการใช้งาน built-in Zip และหันไปใช้ WinZip หรือ winrar แทนได้ดังนี้ ไปที่ start>run พิมพ์ regsvr32 /u %windir%\system32\ zipfldr.dll แล้ว ok จากนั้นจะมีการเตือน ให้กด ok อีกครั้ง ก็เป็นการยกเลิก 32.เพิ่มความเร็วด้วยการจัดคิวให้กับ IRQ เทคนิคนี้เป็นการเร่งความเร็วให้กับเครื่องคอม โดย windows จะทำการจัดคิวให้กับการใช้งาน IRQ ทำให้ windows สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ทำได้ดังนี้ regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Control\Priority Control คลิกขวา PriorityControl เลือก new > DWORD Value มันจะมีให้ตั้งชื่อว่า IRQ8Priority แล้วดับเบิ้ลคลิกแก้ค่า value data เป็น 1 แล้วกด ok จากนั้น restart33.จูนหน่วยความจำสำหรับง่านต่างๆ หน่วยความจำเป็นฮาร์ดแวร์ที่สำคัญมากตัวหนึ่ง เทคนิคนี้จะทำหารสั่งให้ไฟล์ระบบต่างๆไปใช้แคชแทนเพื ่อช่วยให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น เนื้อจากแคชสามารถทำงานได้เร็วกว่า HDD หลายเท่า ทำได้ดังนี้ regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Control\session Manager\Memory Management ดับเบิ้ลคลิกที่ LargeSystemCache แก้ value data เป็น 1 แล้วกด ok 34.จัดการหั้ย cpu ทำงานเต็มประสิทธิภาพ winXP ได้มีลูกเล่นที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของ cpu ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Service\P3\ Parameters คลิกขวาที่ Parameters เลือก new>key พิมพ์ชื่อว่า HackFlags แล้วปรับค่าเป็น 1 ก็กด ok 35. ยกเลิกการใช้ Picture and fax viewer ในการดูภาพ โดยทั่วไปใน winXP จะใช้โปรแกรม Picture and fax viewer เป็นโปรแกรมหลักในการดูภาพ แต่เราสามารถยกเลิกแล้วไปใช้โปรแกรมอื่นดูภาพ เช่น acdsee โดย regedit HKEY_CLASSES_ ROOT\SysytemFile Associations\ image\ShellEX\ ContextMenuHandl ers \ShellmagePreview ด้านขวา ที่ default คลิกขวาแล้ว delete แล้วกด yes ก็เป็นการยกเลิก 36.MTU เป็นหน่วยหนึ่งที่ใช้กำหนดค่าให้กับการรับส่งข้อมูลผ ่านระบบเครือข่ายที่สูงสุดในการส่งแต่ละครั้ง ถ้าเราตั้งค่าให้ค้นหาค่า MTU แบบอัตโนมัติ ก็จะทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Services\ Tcpip\Parameters คลิกขวาParameters เลือก new > DWORD Value ตั้งชื่อว่า EnablePMTUDiscovery แล้วดับเบิ้ลคลิก พิมพ์ค่าเป็น 1 แล้วกด ok 37. เพิ่มการรับส่งข้อมูล MTU การเพิ่มค่า MTU ให้มากที่สุด ก็เป็นส่วนหนึ่งให้ระบบการรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน ต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Services\ Tcpip\Parameters \interfaces\ คลิก + หน้าinterfaces จะมีหลายโฟลเดอร์ ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์แรก new >DWORD Value ชื่อว่า MTU แล้วดับเบิ้ลคลิกใส่ ค่า 576 ถ้าเป็น dial-up Connection 1492 ถ้าเป็น PPP Broadband Connecting 1500 ถ้าเป็น Ethernet , DSL แระ Cable Broadband Connection 38. วิธีเร่งความเร็ว Windows ด้วย vitual memory เนื่องจากโปรแกรมมีขนาดใหญ่กว่าขนาดหน่วยความจำที่เร ามีใช้งาน คอมจึงจำเป็นต้องมีหน่วยความจำเสมือนหรือ vitual memory เพื่อนมาสามารถทำงานได้ดีขึ้น ทำได้ดังนี้ regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Control\Session Manager\Memory Management ด้านขวา ดับเบิ้ลคลิกที่ Pagingfiles แก้ไข้ value data ให้มีขนาดตามที่ต้องการ โดยที่ค่าแรกสุดจะเป็นค่าต่ำสุดที่ตั้งไว้ให้ แค่ค่าหลังเป็นค่าที่มากที่สุดที่ตั้งไว้ ของข้าพเจ้าเป็น 200 500 39. เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการเก็บไฟล์ระบบไว้ในหน่วยความจ ำ โปรแกรมวินโดว์จำมีหน้าที่ในการจัดสรรเนื้อที่หน่วยค วามจำให้กับระบบต่างๆ โดยปกติเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่กว่าหน ่วยความจำที่มีอยู่ โปรแกรมจะทำการนำข้อมูลที่ไม่ได้ใช้แล้ว ในหน่วยความจำออกมาไว้ใน HDD ก่อนแล้วจึงโหลดข้อมูลข้อมูลชุดใหม่ลงไป regedit HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Control\Session Manager\Memory Management ด้านขวา ดับเบิ้ลคลิกที่ DisablePagingExecut ive แก้เป็น 1 แล้ว ok40.ยกเลิกหน้าต่างยืนหลังหลังดาวโหลดเสร็จ ถ้าไม่ได้ใช้โปรแกรมช่วยดาวโหลด ก้อใช้โปรแกรมของ windows โหลด โดยปกติ ถ้าดาวโหลดเสร็จมันจะมีหน้าต่าง ว่าโหลดเสร็จแล้ว แล้วต้องกด open, open Folder, close เพื่อปิดหน้าต่าง ถ้าต้องการให้มันปิดอัตโนมัติเมื่อดาวโหลดเสร็จ ทำดังนี้ regedit HKEY_CURRENT_ USER\Software\ Microsoft\ Internet Explorer\Main ด้านขวา ดับเบิ้ลคลิกที่ NotifyDownloadCompl ete แก้ไขเป็น Yes กด ok 41. ลบข้อมูลใน page file หลังจากปิดเครื่อง โดยปกติ window จะไม่ทำการลบ หรือสร้าง page file หลังจากที่ windows ทำการปิดโปรแกรมหรือ windows นั่นหมายความว่าถ้าเรามีการใช้งานเครื่องคอมมากๆอาจจ ะทำให้คอมทำงานช้าลง และอาจจะทำให้มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ อีกด้วย ดังนั้นควรให้ window ทำการลบ page file ทุกครั้งเมื่อมีการปิดเครื่อง ทำได้ดังนี้ HKEY_LOCAL_MACHINE\ SYSTEM\CurrentCo ntrolSet\ Control\Session Manager\Memory Management ดับเบิ้ลคลิกที่ ClearPageFileAtShut down พิมพ์ค่าเป็น 1 แล้ว ok 42.safe mode เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาของ window ในรูปแบบต่างๆ ซิ่งเป็นการเรียก window ขึ้นมาใช้งานแบบน้อยที่สุดแล้วสามารถเข้าไปตรวจสอบ และแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดที่ทำให้ระบบไม่ทำงาน สำหรับ safe mode ของ xp กดปุ่ม f8 ค้างไว้ขณะเครื่องกำลังเข้าสู winxp 1.safe mode เข้าสู่รูปแบบปกติที่เหมือนกับ ver อื่นๆ 2.safe mode with networking เข้าสู่รูปแบบปกติ แต่สามารถเข้าถึงระบบเครื่อข่ายได้ 3.safe mode with command prompt เข้าสู่คำสั่ง dos 4.enable boot logging เข้าสู่ลักษณะการเก็บข้อมูลขั้นตอนการบู๊ตเข้าสู่ระบ บลงสู่ไฟล์เอกสาร 5.enable vga mode เข้าสู่ลักษณะที่มีปัญหาเกี่ยวกับการ์ดจอ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับจอภาพตัวใหม่ 6.last know good configuration คล้ายกับ system restore ย้อนกลับไปหน้าที่มีการจัดระบบที่ดีก่อนหน้านี้ 7. Debugging mode เข้าสู่การแก้ไขปัญหาในระบบขั้นสูง 8.start windows normally เข้าสู่ win xp ในหน้าปกติ 9. Return to os choices menu เข้าสู่ลักษณะเครื่องที่มีหลาย os 43.driver ลงใหม่ แล้วมีปัญหาใช้ของเก่าดีกว่า เมื่อท่านติดตั้งอุปกรณ์ใหม่แล้วต้องติดตั้ง software driver ลงไป อาจมีผลทำให้เครื่องทำงานผิดปกติ สามารถย้อนกลับไปใช้ของเดิม ดังนี้ คลิกขวา mycom > propoties hardware > device manager เปิดหาไดร์เวอร์ที่มีปันหา จาเห็นเป็นตัวกากบาทสีแดง ก็ดับเบิ้ลคลิก ไปแถบ driver คลิก roll back driver กด ok 44. วิธีสร้าง Shortcut หน้าเว็บที่ต้องการเข้าบ่อยๆ จากบราวเซอร์ Internet Explorer ถ้าหากเจอเว็บไซด์ไหนที่เราถูกใจ หรือมีกระทู้ที่เราต้องการจะติดตามผลจากการโพสของเรา หรือของคนอื่นๆ ให้ทำการคลิ๊กขวาตรงพื้นที่ว่างๆ ของหน้าเว็บ เลือก Create Shortcut แล้วกด OK ก็จะได้ Shortcut สำหรับเข้าหน้าเว็บนั้นๆ อยู่ที่ Desktop แล้วครับ ปล. ผมมักจะใช้วิธีนี้บ่อยๆในการติดตามกระทู้ที่ผมเคยถาม -ตอบเอาไว้จากบอร์ดต่างๆหรือ เจอเว็บไหนที่เข้าตาก็จะเก็บ Shortcut เว็บนั้นๆเอาไว้ในเครื่อง45.เปิดหน้าต่าง IE ให้ทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อใช้งาน IE ไปนานๆ ทำไมโปรแกรมช้าลงทุกที สามารถทำให้เร็วเหมือนตอนติดตั้งใหม่ได้ ดังนี้ HKEY_LOCAL_MACHINE\ Software\ Microsoft\ Windows\CurrentV ersion\Explorer\ RemoteComputer \NameSpace คลิกขวาที่ D6277990-4C6A- 11CF-8D87- 00AA0060F5BF แล้ว delete แล้วกด yes 46. คราวนี้มารู้ว่า registry คืออาไรบ้าง registry เปรียบเหมือนศูนย์กลางของข้อมูล ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลต่างๆอย่างเป็นหมวดหมู่ การเพิ่ม ลบ ติดตั้ง แก้ไขทุกอย่างอยู่ในนี้ทั่งหมด แต่ละตัวมีหน้าทีไรบ้าง HKEY_CLASSES_ ROOT ใช้สำหรับเก็บสมบัติต่างๆและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ software ทั้งหมดที่ติดตั้งภายในเครื่องคอม HKEY_CURRENT_ USER ใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ที่ใช้งานปัจจุบั นที่เข้ามาใช้งานเท่านั้น โดยจะมีความสัมพันธ์และเป็นข้อมูลชุดเดียวกับ HKEY_USERS HKEY_LOCAL_MACHINE ใช้สำหรับเก็บข้อมูลด้าน hardware software และการตั้งค่าอื่นๆ ภายในเครื่อง ข้อมูลภายในของส่วนนี้จะสามารถใช้งานกับทุกคนที่ใช้ค อม HKEY_USERS ใช้สำหรับเก็บข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ทั้ง หมด จะมีความสัมพันธ์กับ HKEY_CURRENT_ USER HKEY_CURRENT_ CONFIG ใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่เกี่ยวกับการกำหนดค่าต่างๆของ hardware หรือ อุปการณ์ต่อพ่วงทั้งหมด 47.จะเปลี่ยนภาษา ~ ให้ใช้งานได้ ไปที่ start >setting >control panel ดับเบิ้ลคลิกที่ Regional and Language Option เลือกแถบ Regional Option อันบนเปลี่ยนเป็น thai ล่างสุด thailand เลือกแถบ Languages ใส่เครื่องหมายถูกหน้า install files for complex script..... ต้องมี แผ่น win xp ด้วย แล้ว ok แล้วไปแถบ advance เลือก thai แล้ว ok แล้วมาที่ แถบ languages ในกรอบ text services and input language ให้เลือก details... เลือกแถบ setting ในกรอบ Installed Services ให้เลือกปุ่ม add เพิ่มตั้งค่าเพิ่มภาษาของแป้นพิมพ์ แล้ว ok แร้วคลิก key setting เลือก switch between input language แล้ว ไปที่ change key sequence.. แล้วเลือก Grave Accent ~ แล้ว ok


แหล่งอ้างอิง

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์ได้คิดประดิษฐ์ขึ้น เพื่อนำมาเสริมความสามารถของมนุษย์ในด้านการับรู้ การจำ การคำนวณ การเปรียบเทียบตัดสินใจ และการแสดงออก ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ให้สามารถทำงานเป็นระบบสนองความต้องการของมนุษย์
การประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยอุปกรณ์รับเข้า (input device) เพื่อรับข้อมูลและคำสั่งจากผู้ใช้ภายนอกเข้าไปเก็บอยู่ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลหรือหน่วยความจำหลัก (main memory) คำสั่งที่เก็บในส่วนความจำหลักจะถูกนำไปตีความ และสั่งทำงานที่หน่วยประมวลผลกลาง ที่เรียกว่า ซีพียู ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานในคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่คำนวณและเปรียบเทียบข้อมูลที่เก็บในหน่วยความจำหลัก ผลจากการคำนวณหรือประมวลผลจะนำกลับไปเก็บยังหน่วยความจำหลัก และพร้อมที่จะนำออกแสดงที่อุปกรณืส่งออก (output device) กลับไปสู่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อไป ดังนั้นระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย ซีพียู หน่วยความจำ อุปกรณ์รับเข้า และอุปกรณ์ส่งออก



อุปกรณ์ที่ปะติดกับคอมพิวเตอร์มีมากมายที่ผู้ใช้รู้จัก และมีหน้าที่เชื่อมต่อแตกต่างกันไป เช่น ส่งเป็นตัวอักษร หรือเป็นชุดตัวอักษร เข้าถึงแบบ Sequentially หรือ Randomly ส่งข้อมูลแบบ Synchronously หรือ Asynchronously บางอุปกรณ์ Dedicated หรือ Shared บางอุปกรณ์ Read-only หรือ Read-write และทุกอุปกรณ์ความเร็วสูงต่ำต่างกัน อุปกรณ์เมื่อแยกตามชนิดข้อมูลสามารถแยกได้ 2 ประเภท
1. อุปกรณ์ชนิดข้อมูลเป็นสาย (stream) อุปกรณ์ประเภทนี้ข้อมูลที่ส่งเข้าออกจะเรียงมาเป็นลำดับก่อน-หลัง การแบ่งแยกข้อมูลทำได้โดยตรวจสอบลำดับของข้อมูล อุปกรณ์ประเภทนี้สามารถจัดการได้ง่าย เพียงแต่จัดการรับ-ส่งข้อมูลให้ถูกต้องก็เพียงพอแล้ว ตัวอย่างของอุปกรณ์ชนิดนี้ได้แก่ คีย์บอร์ด ซึ่งข้อมูลที่ส่งเข้ามาในระบบจะเป็นไปตามลำดับการกดคีย์ คีย์ใดถูกกดก่อนก็จะถูกส่งมาก่อน เครื่องพิมพ์ที่จัดอยู่ในอุปกรณ์ประเภทนี้ ข้อมูลที่ถูกส่งออกไปก่อนก็จะถูกพิมพ์ก่อน ข้อมูลที่ถูกส่งไปทีหลังจะถูกพิมพ์ทีหลัง
2. อุปกรณ์ชนิดข้อมูลไม่เป็นสาย (non-stream) อุปกรณ์ประเภทนี้ ข้อมูลที่ส่งและรับไม่ขึ้นอยู่กับลำดับการส่ง เราต้องอาศัยข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะแยกแยะข้อมูลแต่ละตัว การจัดการอุปกรณ์ประเภทนี้ ระบบปฏิบัติการจะต้องมีวิธีจัดการโดยเฉพาะ ขึ้นอยู่กับลักษณะของอุปกรณ์ชนิดนั้นๆ ตัวอย่างอุปกรณ์ชนิดนี้ เช่น จอภาพ ข้อมูลหรือตัวอักษรที่ส่งไปให้จอภาพแสดงนั้น จะต้องส่งไปในตำแหน่งที่ถูกต้อง ตำแหน่งของตัวอักษรที่แสดงอยู่บนจอภาพแต่ละตัวจะมีแอดเดรสประจำตำแหน่งนั้นๆ เมื่อเราส่งตัวอักษรไปยังแอดเดรสใดตัวอักษรก็จะปรากฎอยู่บนจอภาพ ณ ตำแหน่งแอดเดรสนั้นๆ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การส่งตัวอักษรไปให้จอภาพไม่จำเป็นต้องลำดับการส่งที่ถูกต้อง แต่ต้องการแอดเดรสที่ตรงกับตำแหน่งเท่านั้น 7.1 อุปกรณ์รับ และแสดงผล
อุปกรณ์อินพุต (Input device) คือ อุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสัมผัสและรับรู้สิ่งต่าง ๆ จากโลก ภายนอกได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องอ่านบัตร คีย์บอร์ด เมาส์ อุปกรณ์นำข้อมูลเข้า คือ อุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสัมผัสและรับรู้สิ่งต่างๆ จากภายนอกเครื่องได้ อันได้แก่ โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่เขียนสั่งงาน ให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามขั้นตอน และข้อมูลที่ต้องใส่เข้าไปพร้อมกับโปรแกรม เพื่อส่งไปให้หน่วยประมวลผลกลางทำการประมวลผล และผลิตผลลัพธ์ที่ต้องการออกมา ตัวอย่างเช่น เครื่องอ่านบัตร คีย์บอร์ด เมาส์ จอยสติก จอสัมผัส ปากกาแสง กล้องดิจิตอล สแกนเนอร์ เป็นต้น
อุปกรณ์เอาต์พุต (Output device) คือ อุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ควบคุมหรือส่งผลออกมาสู่โลกภายนอกได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องเจาะบัตร จอภาพ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์นำข้อมูลออก หรืออุปกรณ์แสดงผล คือ อุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ควบคุมหรือส่งผลออกมาสู่ภายนอกตัวเครื่องได้ หลังจากที่คอมพิวเตอร์ได้ทำการประมวลผลแล้ว ก็จะต้องมีวิธีในการนำผลลัพธ์ออกมาแสดง ซึ่งสามารถแบ่งอุปกรณ์แสดงผลนี้ ออกได้เป็น 3 ประเภทคือ อุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ชั่วคราว เช่น จอภาพ (Monitor) อุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ถาวร เช่น เครื่องพิมพ์ (Printer) และอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ถาวรทางด้านกราฟิก เช่น พลอตเตอร์ (Plotter) เป็นต้น 7.1.1 การลงคะแนน (Polling)
(1) A communications technique that determines when a terminal is ready to send data. The computer continually interrogates its connected terminals in a round robin sequence. If a terminal has data to send, it sends back an acknowledgment and the transmission begins. Contrast with an interrupt-driven system, in which the terminal generates a signal when it has data to send.
(2) A technique that continually interrogates a peripheral device to see if it has data to transfer. For example, if a mouse button was pressed or if data is available at a communications port. Contrast with event-driven or interrupt-driven techniques, in which the operating system generates a signal and interrupts the system. (
Techweb.com)
ระเบียบวิธีการที่สมบูรณ์ ในการเชื่อมต่อระหว่าง host และ ตัวควบคุม มีการทำ handshaking เป็นพื้นฐาน โดยสมมติให้มี 2 bits เชื่อมประสาน producer และ consumer หรือ controller และ host โดยมีการบ่งบอกสถานะขณะทำงาน 7.1.2 ขัดจังหวะ (Interrupts)
การขัดจังหวะจะทำงานอย่างต่อเนื่องร่วมกับ CPU จึงถูกเรียกว่า Interrupt-request line โดยทำงานเป็น Interrupt-driven I/O cycle สำหรับ 7 องค์ประกอบ
1. device driver initialtes I/O
2. initiates I/O
3. input ready, output complete, or error generates interrupt signal
4. CPU receiving interrupt, transfers control to interrupt handler
5. interrupt handler processes data, returns from interrupt
6. CPU resumes processing of interrupted task
7. CPU executing checks for interrupts between instructions
if (getQueryVariable("img") == 'yes') {
document.write('');
}else{
document.write('[img]interruptcycle.png[/img]');
}


[img]interruptcycle.png[/img]
7.1.3 เข้าถึงหน่วยความจำโดยตรง (Direct memory access)
(Direct Memory Access) Specialized circuitry or a dedicated microprocessor that transfers data from memory to memory without using the CPU. Although DMA may periodically steal cycles from the CPU, data are transferred much faster than using the CPU for every byte of transfer. On PCs, there are eight DMA channels commonly used as follows. Most sound cards are set to use DMA channel 1
DMA คือ วงจรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อส่งข้อมูลระหว่าง หน่วยความจำ ถึงหน่วยความจำโดยไม่ใช้การทำงานของ CPU และเป็นการทำงานที่คาดหวัง หรือทำนายข้อมูลล่วงหน้า ในการเรียกข้อมูลที่ต้องการใช้ แทนที่จะให้ CPU เป็นคนสั่งงานให้เรียกข้อมูลโดยตรง
ภาพแสดงขั้นตอนการทำงานร่วมกันของ CPU, Cache, CPU memory bus, DMA, PCI bus, IDE disk controller และ Disk มีขั้นตอนต่าง ๆ 6 ขั้นตอน
1. device driver is told to transfer disk data to buffer at address X
2. device driver tells disk controller to transfer C bytes from disk to buffer at address X
3. disk controller initiates DMA transfer
4. disk controlelr sends each byte to DMA controller
5. DMA controller transfers bytes to buffer X, increasing memory address and decreasing c until c = 0
6. when c = 0, DMA interrupts CPU to signal transfer completetion
if (getQueryVariable("img") == 'yes') {
document.write('');
}else{
document.write('[img]http://www.infocom.cqu.edu.au/Units/win2000/85349/Resources/Lectures/pics/12_7.gif[/img]');
}


[img]http://www.infocom.cqu.edu.au/Units/win2000/85349/Resources/Lectures/pics/12_7.gif[/img]
ความเร็วของอุปกรณ์ต่าง ๆ

อุปกรณ์
ความเร็ว
คีย์บอร์ด
10 Bps
เมาส์
100 Bps
โมเด็ม 56 KB
7 KBps
แชนแนลโทรศัพท์
8 KBps
คู่สาย ISDN
16 KBps
เครื่องพิมพ์เลเซอร์
100 KBps
สแกนเนอร์
400 KBps
อีเธอร์เน็ต (Classic)
1.2 MBps
USB (Universal serial bus)
1.5 MBps
ดิจิทอลแคมคอร์ดเดอร์
4 MBps
ดิสก์ IDE
5 MBps
ซีดีรอม 40X
6 MBps
อีเทอร์เน็ต (Fast)
12.5 MBps
บัส ISA
16.7 Bps
ดิสก์ EIDE (ATA-2)
16.7 MBps
FireWire (IEEE 1394)
50 MBps
มอนิเตอร์ XGA
60 MBps
เน็ตเวิร์ค SONET OC-12
78 MBps
ดิสก์ SCSI Ultra 2
80 MBps
อีเธอร์เน็ต (Gigabit)
125 MBps
เทป Ultrium
320 MBps
บัส PCI
528 MBps
SUN Gigaplane XB backplane
20 GBps
7.2 Application I/O Interface
7.2.1 Block and character devices
โดยปกติระบบปฏิบัติการจะคาดหวังการเชื่อมต่อผ่าน read() write() หรือ seek() ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่งข้อมูลแบบ simple linear array of block หรือ raw I/O ตัวอย่างอุปกรณ์แบบนี้ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ keyboard
7.2.2 Network devices
ในระบบเครือข่ายจะมีการติดต่อสื่อสารกันผ่าน socket interface นอกจากการติดต่อแบบ read() write() และ seek() ยังมีการใช้อุปกรณ์ในเครือข่ายเชื่อมต่อเข้ามาผ่าน socket ได้อีกทางหนึ่ง โดยไม่ได้คำนึงถึงระบบปฏิบัติการว่าจะเป็น UNIX หรือ Windows แต่สนใจเฉพาะสิ่งที่ส่งเข้ามาว่าเข้ามาทางใด
7.2.3 Clocks and timers
คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มี hardware clock และ timer ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเวลา 3 อย่าง
- บอกเวลาปัจจุบัน (Current time)
- บอกเวลาที่ผ่านไป (Elapsed time)
- ตั้ง trigger ที่จะปฏิบัติการต่อเวลา
7.2.4 Blocking and nonblocking I/O
การมี system-call interface รองรับ I/O ที่มาจาก blocking และ nonblocking เพราะผู้ใช้อาจใช้ทั้ง mouse และ keyboard ส่งข้อมูลพร้อมกัน ในขณะที่กำลังเปิดภาพยนต์จากแผ่น CD จึงต้องรอบรับข้อมูลต่าง ๆ ที่เข้ามา
Characteristics of I/O devices
aspect
variation
example
data-transfer mode
characterblock
terminaldisk
access method
sequentialrandom
modemCD-ROM
transfer schedule
synchronousasynchronous
tapekeyboard
sharing
dedicatedsharable
tapekeyboard
device speed
latencyseek timetransfer ratedelay between operations

I/O direction
read onlywrite onlyread-write
CD-ROMgraphics controllerdisk
7.3 Kernel I/O Subsystem
Kernel คือแก่นของระบบ ที่ให้บริการต่าง ๆ มากมาย และสัมพันธ์กับ I/O ด้านต่าง ๆ หรือกล่าวได้ว่าทั้ง 6 เรื่องต่อไปนี้ คือระบบย่อยของการจัดการภายใน kernel ที่เกี่ยวกับ I/O
7.3.1 I/O scheduling 7.3.2 Buffering (เก็บข้อมูลที่ปรากฎ) 7.3.3 Caching (เก็บข้อมูลที่เรียกใช้บ่อย และทำให้การเรียกใช้เร็วกว่า) 7.3.4 Spooling and device reservation (เป็น buffer ที่เก็บผลลัพธ์ของอุปกรณ์ เช่น printer) 7.3.5 Error handling 7.3.6 Kernel data structures
if (getQueryVariable("img") == 'yes') {
document.write('');
}else{
document.write('[img]http://www.humblepie.com/graphics/diskcacheread1.jpg[/img]');
}

[img]http://www.humblepie.com/graphics/diskcacheread1.jpg[/img] 7.4 ปฏิบัติการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม
- ฝึกติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเข้าไป
- ฝึกตรวจสอบความเร็วของอุปกรณ์ input และ output ต่าง ๆ - ฝึกเขียนแผนภาพแสดงการเชื่อมต่อระหว่าง CPU กับ I/O controller - ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ ระบบรับ และแสดงผล จากอินเทอร์เน็ต แล้วทำรายงาน และส่งตัวแทนนำเสนอหน้าชั้น

คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์ได้คิดประดิษฐ์ขึ้น เพื่อนำมาเสริมความสามารถของมนุษย์ในด้านการับรู้ การจำ การคำนวณ การเปรียบเทียบตัดสินใจ และการแสดงออก ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ให้สามารถทำงานเป็นระบบสนองความต้องการของมนุษย์
การประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยอุปกรณ์รับเข้า (input device) เพื่อรับข้อมูลและคำสั่งจากผู้ใช้ภายนอกเข้าไปเก็บอยู่ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลหรือหน่วยความจำหลัก (main memory) คำสั่งที่เก็บในส่วนความจำหลักจะถูกนำไปตีความ และสั่งทำงานที่หน่วยประมวลผลกลาง ที่เรียกว่า ซีพียู ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานในคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่คำนวณและเปรียบเทียบข้อมูลที่เก็บในหน่วยความจำหลัก ผลจากการคำนวณหรือประมวลผลจะนำกลับไปเก็บยังหน่วยความจำหลัก และพร้อมที่จะนำออกแสดงที่อุปกรณืส่งออก (output device) กลับไปสู่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อไป ดังนั้นระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย ซีพียู หน่วยความจำ อุปกรณ์รับเข้า และอุปกรณ์ส่งออก




1. แป้นพิมพ์ (Keyboard) เป็นอุปกรณ์นำเข้าที่สามารถป้อนข้อมูลเข้าโดยการพิมพ์ มี 3 ชนิดคือ 1.1 แบบกลมใหญ่ มักจะต่อกับเคส แบบ AT 1.2 แบบกลมเล็กหรือ PS/2 มักจะต่อกับเคสแบบ ATX 1.3 แบบแบนหรือ USB มักจะต่อกับเคสแบบ ATX 2. ตัวชี้ (Pointing Device) เป็นอุปกรณ์ตัวชี้ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานโปรแกรมมี 2 ชนิด 2.1 เม้าท์ (Mouse) มี 3 ชนิด ได้แก่ 2.1.1 แบบแบนมีเข็ม มักจะต่อกับเคสแบบ AT หรือ ATX บางรุ่น 2.1.2 แบบกลมเล็กหรือ PS/2 มักจะต่อกับเคสแบบ ATX 2.1.3 แบบแบนหรือ USB มักจะต่อกับเคสแบบ ATX 2.2 Joy Stick มี 2 ชนิดได้แก่ 2.2.1 แบบแบน หรือ Pad Stick 2.2.2. แบบคันโยกหรือพวงมาลัย หรือ Fight Stick 3. อุปกรณ์นำภาพเข้า Digital หรือนำข้อมูลเข้าได้แก่ 3.1 เครื่องสแกนเนอร์ มี 2 ชนิดได้แก่ 3.1.1 เครื่องสแกนด้วยมือ หรือ Roller,Hand Scan 3.1.2 เครื่องสแกนแบบแผ่นกระจก Jet Scan 3.2 กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 3.3 กล้องถ่ายภาพเคลื่อนใหว VDO 3.4 เครื่องอ่านแผ่นข้อมูล CD-ROM 3.5 เครื่องอ่านแถบแม่เหล็กชนิดอ่อน Disk Drive

<<อุปกรณ์ ประเภท INPUT>> อุปกรณ์นำเข้าสามารถแยกได้ดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ input และ output
From CPE SKE Wiki
Jump to:
navigation, search
Contents
[
hide]
1 อุปกรณ์ input
1.1 Keyboard
1.2 Mouse
2 อุปกรณ์ Output
2.1 Printer
2.1.1 Dot Matrix
2.1.2 Laser Printer
2.1.3 Inkjet Printer
2.2 Monitor
2.2.1 จอ CRT
2.2.2 จอ LCD
2.2.3 จอ OLED
if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "show"; var tocHideText = "hide"; showTocToggle(); }

[
edit] อุปกรณ์ input
[edit] Keyboard
ใช้เทคนิคแบบสวิตช์
มีลูกเล่นคือ ปุ่มบางอันสามารถกำหนดได้เช่น ปุ่มwindow
มีการต่อวงจรแบบ Matrix ทำให้เป็นการประหยัด
การทำงาน เมื่อ cpu เริ่มปล่อยไฟที่แถวที่ 1 ดูว่ามีตรงไหนลัดวงจร ถ้าไม่มีจะเปลี่ยนแถวไปเรื่อยๆ แล้ววนกลับมาที่แถวที่ 1 อีก วนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เรียกการวนว่า “การสแกน”
Keyboard notebook ต่างจากพีซี ตรงที่จะมีสายแพ(ATA) ซึ่งส่งข้อมูลแบบparallel แต่ deskopส่งแบบserial
เวลาจะซื้อให้ลองกด ดูว่าคล่องมือไหม
[edit] Mouse
1. Mouse แบบลูกกลิ้ง
§ มีลูกกลิ้งที่ต่อเข้ากับแผ่นจ่ายที่ตั้งแนวนอน (โดยเป็นแผ่นจานที่มีรูที่มีระยะห่างตายตัว)
§ เมื่อมีการหมุน แสงที่ส่องจะมีการกระพริบ
§ การชี้mouseไปทาง ซ้าย – ขวา เกิดจากมีเซนเซอร์แสง 2 ตัวตั้งเบี่ยงกัน โดยจะมีแสงตัดไม่พร้อมกัน เมื่อเลื่อนช่องของแสงตัดผ่านเซนเซอร์ตัวไหนก่อนจะทำให้บอกได้ว่าหมุนซ้าย-ขวา การตรวจสอบแบบนี้เรียกว่า “Encorder”
2. Mouse แบบใช้แสง
§ รุ่นแรก Mouse จะต่ออยู่บนแผ่นรองพิเศษ โดยถ้าแผ่นรองหายก็ทิ้งmouse ไปได้เลย แบบว่าจะใช้ไม่ได้เลย
§ รุ่นใหม่ ไม่ต้องใช้แผ่นรองใช้ระบบ Image Procesing มี CMOS Sensor คล้ายในกล้องdigital แต่ว่ามีความละเอียดน้อยกว่า โดย เซนเซอร์ตัวนี้จะถ่ายรูปพื้นเหมือนถ่ายหนัง โดยเป็นการถ่ายภาพนิ่งแบบเร็วๆ แล้วประมวลว่าmouse ไปทางไหน โดยดูจากความแตกต่างของแต่ละเฟรม
§ ข้อเสีย เมื่อไหร่ที่เจอพิ้นผิวแบบ mono คือพื้นผิวที่เหมือนกันมากๆ เช่นกระจก .
[edit] อุปกรณ์ Output
[edit] Printer
[edit] Dot Matrix
มีส่วนที่เป็นห้วพิมพ์ที่เป็นเข็มเรียงกันอยู่ในแนวตั้ง มี 2 แบบคือ แบบ 9 เข็ม และแบบ24 โดยจะมี 2 แถว แถวละ 12 เข็มเยื้องกัน
มีโอกาสที่กระดาษจะติด
ข้อควรระวัง คือ จะต้องปิดเครื่องหลังกระดาษติด ห้ามดึงกระดาษ เพราะว่าจะทำให้เข็มหักได้
ฮาร์แวร์หมายถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำงานประสานกันเพื่อให้เกิดการประมวลผล การจัดเก็บ และการเผยแพร่ข้อมูล/สารสนเทศ บางครั้งเราจะเรียกฮาร์แวร์ว่า device ซึ่งหมายถึงอุปกรณ์นั่นเอง ฮาร์ในระบบคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ อุปกรณ์ส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (input devices) หน่วยประมวลผล(processors) อุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ (output devices) และอุปกรณ์ที่มำหน้าที่เป็นหน่วยเก็บความจำภายนอกหรือหน่วยความจำสำรอง (secondary storage dvices)
อุปกรณ์ส่งข้อมูลขาเข้า(Input Devices)
Input devices ใช้เป็นอุปกรณ์ในการส่งข้อมูลสารสนเทศและชุดคำสั่งเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ใน เบื้องต้นนี้ควรรู้จักประเภทต่างๆ ของฮาร์ดแวร์กลุ่มนี้ ซึ่งมีอยู่ 7 ประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ได้แก่ คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ เทอร์มินัล เมาส์ สแกนเนอร์หรือเครื่องสแกน ไมโครโฟน อุปกรณ์จานแถบแม่เหล็ก และอุปกรณ์ส่งข้อมูลกราฟิก
หน่วยประมวลผล (Processors)
เป็นฮารด์แวร์ที่สำคัญที่สุดของระบบคอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนระบบสมองของร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลและสารสนเทศด้วยชุดคำสั่งที่ส่งเข้าไปให้ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ ส่วนของหน่วยผลนี้เป็นฮาร์ดแวร์ที่ประกอบด้วยแผงวงจรต่างๆ แผงวงจรที่สำคัญ ได้แก่ หน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU (cetral processing) และหน่วยความจำ (memory) รวมทั้งแผงวงจรพิเศษที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ในลักษณ์ต่างๆ เช่น เพื่อให้ประมวลผลข้อมูลที่อยู่ในรูปของเสียง กราฟิก และ image หรือภาพประเภทต่างๆได้ หรือเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญ
อุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ (Output Devices)
เป็นอุปกรณ์ที่แสดงผลของการทำงานในระบบคอมพิวเตอร์ได้แก่ จอภาพ เครื่องพิมพ์ ์ลำโพง และอุปกรณแสดงผลลัพธ์ที่อยู่ในรูปของกราฟิก ่
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยเก็บความจำภายนอกหรือหน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage Devices) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลสารสนเทศและชุดคำสั่ง มีหลายประเภทที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ จานแม่เหล็ก แถบแม่เหล็กและจานแสงแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เหมาะกับการใช้งานในลักษณะต่างๆ สามารถเก็บสารสนเทศรูปแบบต่างๆ ได้อย่างไม่จำกัดและสามารถนำสารสนเทศกลับมาใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ในครั้งต่อๆ ไปได้เมื่อต้องการ



แหล่งอ้างอิง http://www.school.net.th/library/snet1/hardware/index1.htm



วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

บล็อคคืออะไร

บล็อก คืออะไร
บล็อกเป็นไดอารีส่วนบุคคล ห้องฟังเทศน์ พื้นที่สำหรับความร่วมมือ เวทีแสดงออกทางการเมือง ห้องกระจายข่าว การเก็บรวบรวมลิงก์ ความคิดส่วนตัวของคุณ บันทึกสำหรับคนทั่วโลก
บล็อกของคุณจะเป็นอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ เรามีบล็อกนับล้าน ทุกรูปแบบและทุกขนาด และไม่มีกฎตายตัว
กล่าวง่ายๆ บล็อกก็คือเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถเขียนเรื่องต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เรื่องใหม่จะปรากฏด้านบนสุด เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถอ่านสิ่งที่มาใหม่ จากนั้นจะสามารถแสดงความคิดเห็นหรือสร้างลิงก์ หรือส่งอีเมลถึงคุณ หรือไม่ทำอะไรเลย
นับตั้งแต่ Blogger เปิดตัวในปี ค.ศ. 1999 บล็อกก็ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของเว็บ สร้างผลกระทบต่อการเมือง เขย่าวงการสื่อสารมวลชน และทำให้คนนับล้านได้แสดงออกและติดต่อกับบุคคลอื่น
และเรามั่นใจว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);
window.google_render_ad();

Blog ทำอะไรได้บ้าง
blogger สามารถโพสรูปภาพ ในรูปแบบ jpeg, gif และ png ได้ สามารถโพสไฟล์ Macromedia Flash (.swf) ได้ และไฟล์มัลติมีเดีย mpeg, mpg, avi, mp3, wma ได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานสามารถสร้างเนื้อหาของต้นเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้คำสั่ง HTML หรือ Javascipt แต่อย่างใด เพราะทูลที่เรานำมาให้ใช้งานนั้น เป็นทูลแบบ WYSIWYG (what you see is what you get) อย่างเช่น ปรับขนาดตัวหนังสือ เปลี่ยนสี ขึ้นย่อหน้า ใส่รูป ด้วยการคลิ้กเมาส์ไปที่ทูลบาร์ต่างๆ เสมือนกับการใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูปอย่าง Microsoft Word เป็นต้น




แหล่งอ้างอิง http://blog.eduzones.com/dotnetengcom/11632